วันนี้ (19 มีนาคม 2565) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม  “ละอ่อนล้านนาฮ่วมใจ๋ ฮักสุขภาพ กับ ก้าวท้าใจ Season 4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 1 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยบุคลากรหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายในหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมงาน

      ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการสร้างให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย กระทรวงสาธารณสุขจึงมุ่งเน้นสร้างเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้อง ส่งเสริมการออกกำลังกายโดยให้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดี สนับสนุนให้บุคลากรสาธารณสุข เป็นต้นแบบด้านสุขภาพ (Health Model) โดยกรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน และผลักดันนโยบายส่งเสริมการออกกำลังกายระดับชาติ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล Application line ก้าวท้าใจ เพื่อให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เหมาะสม และต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญ “ก้าวท้าใจ Season 4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ” และเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะกลุ่มวัยเรียนที่ขาดการมีกิจกรรมทางกาย และออกกำลังกาย ทำให้เกิดความเครียดจนส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กไทย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มุ่งเน้นการขับเคลื่อนในกลุ่มนักเรียน และนักศึกษา เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกาย และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง สร้างสุขภาพ  ที่แข็งแรง ทั้งนี้ ผู้สนใจทั้งสมาชิกเก่า และสมาชิกใหม่ สามารถเข้าร่วมกิจกรรม โดยลงทะเบียน และเก็บสะสมแต้มสุขภาพ Health Point ผ่าน Line ID @thnvr เพื่อสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นการออกกำลังกายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ภายใต้แคมเปญ “ก้าวท้าใจ Season 4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ” โดยสามารถคัดกรองสุขภาพ และประเมินค่าดัชนีมวลกาย ส่งผลออกกำลังกาย รายงานผลการออกกำลังกาย และยังเพิ่มเติมการจัดแข่งขันภายในกลุ่ม และเปรียบเทียบกลุ่ม อีกทั้งสามารถสะสมแต้มสุขภาพในกิจกรรมต่าง ๆ โดยเริ่มสะสมได้ตั้งแต่วันนี้ - 11 พฤษภาคม 2565

            ทางด้าน นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 1 ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการก้าวท้าใจ ใน Season 1 , 2 และ 3 โดยตั้งเป้าหมายใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน จำนวน 450,000 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 230,000 คน โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนก้าวท้าใจสูงสุด 3 อันดับแรก คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ แบ่งเป็นประเภท อสม. 78,000 คน บุคลากรภาครัฐ/ภาคเอกชน 28,000 คน นักเรียน/นักศึกษา 25,000 คน และประชาชนทั่วไป 100,800 คน สำหรับปี 2565 เขตสุขภาพที่ 1 ยังคงขับเคลื่อนโครงการก้าวท้าใจ Season 4 ภายใต้แคมเปญ “พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ” เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ มีสุขภาพดีด้วยการมีกิจกรรมทางกาย และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องต่อไป

            ทางด้าน ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมโครงการกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อลดปัญหาพฤติกรรมเนือยนิ่ง ติดไลน์ ติดเกม ติดโทรทัศน์ ติดโทรศัพท์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและเหมาะสม แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีการปิดสถานศึกษา เปลี่ยนจากการเรียน On-Site เป็นการเรียนแบบออนไลน์ ส่งผลให้เด็กวัยเรียนมีกิจกรรมทางกายลดลง ดังนั้น โครงการก้าวท้าใจ Season 4 วิถีถัดไป พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการของกระทรวงสาธารณสุขที่กระทรวงศึกษาธิการ ยินดีสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนได้สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มวัยนี้ได้ใช้เวลาในการมีกิจกรรรมทางกายและออกกำลังกายด้วยรูปแบบต่าง ๆ อันจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพดีในระยะยาวเพิ่มมากขึ้น

            ทางด้าน นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค และสร้างสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งประโยชน์ของการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง หรือเดินเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต ฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น เผาผลาญไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอล และสามารถควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง และอ้วน อีกทั้งช่วยให้การทำงานของปอด หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง นอกจากนี้ ในช่วงนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถสร้างเกราะป้องกันโรค ลดความเจ็บป่วยได้